วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

เพลงที่เราได้ยินบ่อยๆ แต่ไม่รู้จักชื่อ

        หลายๆคนอาจเคยฟังเพลงบางเพลงจนชอบ แต่ไม่รู้จักชื่อ ซึ่งมันคงลำบากเวลาหาในยูทูปนะคะ
วันนี้จขกท.จะมาบอกเพลงเพราะๆ ที่เราคุ้นๆ อาจจะเคยได้ยินในห้างนะคะ อาจจะมีเพลงที่เราชอบอยู่ในนั้นก็ได้นะ ลองมาฟังกันเลยดีกว่า







Rolling in the deep - Adele






Trouble is a friend - Lenka




Sweet Dreams - Beyonce




On the floor - Jennifer Lopez




I kiss a girl -Katy  Perry




Nothing on you - B.O.B. feat Bruno Mars




As long as you love me - Justin Birber




You belong with me - Taylor Swift




What's my name - Rihanna




Halo - Beyonce




Billionaire - Bruno Mars



Firework - Katy Perry



วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

10 อันดับ สถานที่ขอหวย ที่ฮิตมากที่สุด ในประเทศไทย


สถานที่ขอหวย อันดับ 10 ศาลคุณปู่คุณย่าเมืองทอง

สถานที่ขอหวย
ใครที่เคยไป อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี ถนนแจ้งวัฒนะ เชื่อว่าต้องคุ้นกับภาพฝูงรูปปั้น ม้าลาย ที่เรียงรายอยู่บนทางเท้า ล้อม ศาลคุณปู่คุณย่าเมืองทอง ม้าลายเหล่านี้มาจากการถวายแก้บน ภายหลังสมหวังในสิ่งที่ปรารถนา หากดูจากจำนวนสิ่งของที่แก้บนแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่น้อย
สถานที่ขอหวย อันดับ 9 รูปหล่อ ดร.ตั้ว ลพานุกรม
สถานที่ขอหวย
อนุสาวรีย์ ดร.ตั้ว ผู้ก่อตั้งองค์การเภสัชกรรม ตั้งอยู่หน้าองค์การเภสัชกรรม ถนนพระราม 6 เยื้องโรงพยาบาลรามา หลังจากมีกระแสข่าวว่าได้สร้างความเฮงให้กับพนักงานองค์การเภสัชฯ 6 คน ถูกรางวัลที่ 1 รวมกันกว่า 36 ล้านบาทและหลายรายซึ่งถูกรางวัลข้างเคียง ทำให้ประชาชนแวะเวียนมากราบไหว้ รูปหล่อ ดร.ตั้ว พลานุกรม กันอย่างไม่ขาดสาย
สถานที่ขอหวย อันดับ 8 ศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ วัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
อีกหนึ่งแหล่งขอหวยชื่อดังในเมืองไทย ศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์ วัดทับกระดาน หรือเรียกกันติดปากว่า วัดพุ่มพวง หลังจากการเสียชีวิตของราชินีลูกทุ่งตลอดกาล เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2535 วัดทับกระดาน กลายเป็นอนุสรณ์สำหรับระลึกถึงเธอ เมื่อมีการนำหุ่นพุ่มพวงไปตั้งในศาลาการเปรียญ วัดทับกระดานนั้น มีแฟนเพลงไปกราบขอหวย และถูกหวยหลายงวดติดต่อกัน ได้บอกเล่าปากต่อปากถึงความแม่นยำในเลขเด็ด จนกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่บ่อยครั้ง เหตุนี้เองบรรดานักเสี่ยงโชคจากทั่วทุกสารทิศจึงเดินทางมาขอเลขเด็ดจากพุ่มพวง ดวงจันทร์ ไม่เว้นแต่ละวัน
สถานที่ขอหวย อันดับ 7 ศาลเจ้าพ่อเสือบางเขน
ศาลเจ้าพ่อเสือ บริเวณสี่แยกถนนรามอินทราซอย 5 ตัดกับพหลโยธิน 48 อีกหนึ่งสถานที่ฮิตทำรถติดใกล้วันหวยออก เพราะนักเสี่ยงโชคพร้อมใจกันไปกราบไหว้ขอเลขเด็ด ประหนึ่งว่ามีงานแฟร์แถวนั้น!
สถานที่ขอหวย อันดับ 6 ศาลเจ้าแม่งูจงอาง ถ.พระราม 2
สถานที่ขอหวยชื่อดังย่านพระราม 2 ศาลเจ้าแม่งูจงอาง ชาวบ้านเชื่อกันว่า เรื่องราวของงูจงอางความยาวกว่า 2 เมตร ถือเป็นความประหลาดและศักดิ์สิทธิ์ จะนำมาซึ่งโชคลาภแก่ผู้ที่เคารพศรัทธา จึงช่วยกันสร้างเป็นศาลให้กราบไหว้ขอพรในสิ่งที่ปรารถนา โดยเฉพาะเลขเด็ด ที่เน้นหนักกว่าเรื่องไหน!
สถานที่ขอหวย อันดับ 5 ต้นโพธิ์ โค้งศาลอาญา รัชดาฯ
โค้งร้อยศพที่แฝงไปด้วยความเฮี้ยนและความศักดิ์สิทธิ์ของต้นโพธิ์ มีผลให้นักเสี่ยงโชคและผู้คนในละแวกนั้นนิยมมาขอหวยเป็นประจำ ต้นโพธิ์ต้นนี้ขึ้นอยู่บนเกาะกลางถนน บริเวณสะพานลอย หน้าศาลอาญา รัชดาฯ มานานนับสิบปี ผู้ที่มาขอหวยส่วนใหญ่จะต้องปีนบันไดไม้ไผ่ลงไปบริเวณโคนต้นโพธิ์ แล้วจุดธูปอธิษฐานขอเลขเด็ด อืมมม ลงทุนเพื่ออนาคต!
สถานที่ขอหวย อันดับ 4 ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง
เซียนหวยทุกคนต้องไม่พลาด! เป็นความเชื่อมาช้านานว่า ต้นตะเคียนทองมีเทวดาอารักษ์ หรือเจ้าแม่ตะเคียนทองสิงสถิตอยู่ และมีความศักดิ์สิทธิ์มาก สามารถบันดาลโชคลาภให้สมดังใจหมาย ผู้คนที่ศรัทธาจึงนิยมเดินทางไปอธิษฐานบนบานขอหวยกันเป็นประจำ ในประเทศไทยนั้นมี ศาลเจ้าแม่ตะเคียนทอง อยู่หลายแห่ง ที่ได้รับความนิยม เช่น เสาตะเคียนทอง วัดสูง อ.เสาไห้ จ.สระบุรี เสาตะเคียนทอง วัดบึงแก้ว อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ซึ่งมีต้นตะเคียนเก่าแก่อายุ 100 ปี และ เสาตะเคียนทอง วัดสวนมะม่วง อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เป็นต้น
สถานที่ขอหวย อันดับ 3 ศาลแม่นาคพระโขนง วัดมหาบุศย์
วัดมหาบุศย์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ วัดแม่นาคพระโขนง เป็น สถานที่ขอหวย ลำดับต้นๆ ที่มักถูกกล่าวถึง ส่วนหนึ่งอาจมาจากชื่อเสียงของตำนานแม่นาคที่โด่งดัง บวกกับความขลังที่รายล้อมไปด้วยสิ่งลี้ลับ นักเสี่ยงโชคจึงมุ่งมาแสวงหาเลขเด็ดในทุกงวด อย่างไม่ขาดระยะ
สถานที่ขอหวย อันดับ 2 ต้นโพธิ์ ริมถนนใหญ่รามอินทรา
ต้นโพธิ์  ตรงหลัก กม. 13 ถนนรามอินทรา ยามราตรีไม่มีคำว่าเงียบเหงา ยิ่งวันใกล้หวยออก จะคราคร่ำไปด้วยนักแสวงโชค เฝ้ารอให้ใบโพธิ์ร่วงหล่น แล้วนำไปตีเป็นตัวเลข บางคนก็จุดธูปไหว้ ขอให้ฝันเห็นเลขเด็ด ต้นโพธิ์ต้นนี้อยู่ในเขตของโรงงานแห่งหนึ่ง แต่กิ่งก้านแผ่ขยาย ยื่นยาวออกมาด้านนอก จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการขอหวยแม้แต่น้อย
สถานที่ขอหวย อันดับ 1 ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง
ใครเลยจะคิด บนดาดฟ้าของสถานีตำรวจพลับพลาไชย จะมีสถานอันศักดิ์สิทธิ์ สถานที่ขอหวย สุดฮิต ฮิตสุดในประเทศซ่อนอยู่ ศาลเจ้าพ่อยี่กอฮง เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดของนักเล่นหวย เจ้าพ่อยี่กอฮงมีนามเดิมว่า นายเตี่ยง แช่แต่ (แซ่แต่เป็นต้นตระกูลเตชะวณิชย์ ที่ทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติไว้มากมาย) ส่วนที่เกี่ยวข้องกับหวยก็คือ ในสมัยรัชกาลที่ 6 ท่านเป็นนายอากรบ่อนเบี้ยคนแรก ที่ริเริ่มให้มี หวย กข (เป็นหวยในอดีต) ในย่านสามยอด พลับพลาไชย และเยาวราช ก่อนเสียชีวิตท่านได้บริจาคที่ดินเป็นจำนวนมากให้แก่รัฐ รวมถึงที่ดินผืนนี้ ผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาจึงสร้างศาลเจ้าไว้สักการะและระลึกถึง สาเหตุหนึ่งที่ผู้คนนิยมมาขอหวยที่นี่ เพราะสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นเจ้าของโรงหวย และเป็นผู้ริเริ่มและชื่นชอบการเล่นหวย เรียกว่า จะขอทั้งที มาขอกับ ต้นกำเนิด น่าจะแม่นยำ กำเลขเด็ดกลับบ้าน แน่นอน!?
ที่มา : toptenthailand

10 อันดับ สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ


สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ

สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 10. Hadrian’s Wall
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ Hadrian's Wall
กำแพงเฮเดรียน (Hadrian’s Wall) สร้างขึ้นโดยชาวโรมัน จุดประสงค์เพื่อปกป้องอาณานิคมจากการรุกรานของชนเผ่าสก็อตแลนด์ มีความยาว 117 เมตร พาดขวางแนวตอนเหนือของเกาะอังกฤษ ตั้งแต่ทะเลไอริชจนถึงทะเลเหนือ กำแพงเฮเดรียน เริ่มสร้างในรัชสมัยของจักรพรรดิเฮเดรียนในปี ค.ศ. 122 เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 6 ปี ปัจจุบัน มีเพียงกำแพงส่วนกลางที่ยังคงปรากฏให้เห็น สามารถเดินได้ตลอดแนวกำแพง ด้วยความเก่าแก่และสวยงาม กำแพงเฮเดรียน จึงเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และจดทะเบียนเป็น มรดกโลก ในปี ค.ศ. 1987
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 9. Warwick Castle
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ Warwick Castle
ปราสาทวอริค โครงสร้างเดิมเป็นไม้ สร้างโดย สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ ใน ปีค.ศ. 1068 และได้รับการบูรณะใหม่ โดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างเป็นหินในคริสต์ศตวรรษที่ 12 ช่วงสงครามร้อยปี ด้านหน้าของ ปราสาทวอริค ที่หันตรงข้ามกับเมือง ก็ได้รับการเสริมสร้างให้แข็งแรงขึ้น ทำให้ ปราสาทวอริค กลายเป็นที่จดจำว่าเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมทางการทหารในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เมื่อปี ค.ศ. 2001 ปราสาทวอริค ถูกขนานนามว่าเป็น 1 ใน 10 ของอนุสรณ์สถานแห่งประวัติศาสตร์ชาติ และเป็นหนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 8. Lake District
 เที่ยวประเทศอังกฤษ
อีกหนึ่ง สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ Lake District อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษ ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ในมณฑลคัมเบรีย จุดดึงดูดใจอยู่ที่ทะเลสาบและเทือกเขา ซึ่งเกิดจากการระบิดของธารน้ำแข็งในยุคสมัยก่อน เกิดเป็นภาพน้ำ ภาพเขา สวยจับใจ จนทุกวันนี้ Lake District เป็นอีกหนึ่งจุดหมายชื่อดังสำหรับนักปีนเขา ในแต่ละปีจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือน ราว 14 ล้านคน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 7. Tower of London
หอคอยแห่งลอนดอน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ที่ฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอน เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการ สร้างขึ้นโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 เพื่อป้องกันการโจมตีของชาวเมืองที่ต่อต้านชาวนอร์มัน ต่อมา หอคอยแห่งลอนดอน  ถูกใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่มียศศักดิ์สูง ตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1100 จนถึง กลางศตวรรษที่ 20 และที่แห่งนี้ถูกโจษจันว่าเป็นหนึ่งในสถานที่สุดหลอน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 6. The Cotswolds
คอทส์โวลส์ แนวเนินเขาละมุนน่าสัมผัส เมืองที่มีทิวทัศน์ทางธรรมชาติที่ชวนหลงใหลที่สุด หนึ่งใน สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ จุดที่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล คือ ระยะ 330 เมตร สถานที่ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยว ได้แก่ หมู่บ้านที่สร้างจากหินสีน้ำผึ้ง ย่านเมืองเก่าแห่งประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของอังกฤษ
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 5. Durham Cathedral
มหาวิหารเดอรัม คริสตจักรมหาวิหารของพระคริสต์ พระนางมารีย์พรหมจารี และเซนต์คัธเบิร์ตแห่งเดอรัม ตั้งอยู่ที่ เมืองเดอรัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ  เป็นตึกนอร์มันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษ โครงสร้างของ มหาวิหารเดอรัม เป็นหิน ก่อตั้งขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1093 ลักษณะโครงสร้างส่วนใหญ่เป็นแบบโรมาเนสก์ มีหอคอยสูง 66 เมตร มีบันไดขึ้นทั้งหมด 325 ขั้น ภายหลังได้รับการบูรณะและเพิ่มเติมบางส่วน แต่โดยรวมแล้ว มหาวิหารเดอรัม ก็ยังคงเป็นสถาปัตยกรรมแบบนอร์มัน ในปี ค.ศ. 2011 สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ แห่งนี้ ได้รับการโหวตจากโพลของสำนักข่าว BBC ให้เป็น สิ่งก่อสร้างที่น่าหลงใหลมากที่สุดในเกาะอังกฤษ องค์การยูเนสโกยกให้ มหาวิหารเดอรัม เป็น มรดกโลก พร้อมกับ ปราสาทเดอรัม ซึ่งอยู่ตรงกันข้าม ริมแม่น้ำเวียร์
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 4. York Minster
มหาวิหารยอร์ก เป็นคริสต์ศาสนสถานแบบกอธิค ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปตอนเหนือ (รองจากมหาวิหารโคโลญ ประเทศเยอรมนี) มหาวิหารยอร์ก เริ่มสร้างใน ปี ค.ศ. 1230 และเสร็จสมบูรณ์ใน ปี ค.ศ. 1472 เป็นสิ่งก่อสร้างที่รวมลักษณะสำคัญของสถาปัตยกรรมแบบกอธิคไว้ทั้งหมด สิ่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำ คือ หน้าต่างบานใหญ่ ชื่อ “Great East Window” สร้างใน ปี ค.ศ. 1408 ถือเป็นหน้าต่างประดับกระจกสีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 3. Windsor Castle
สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ที่คุ้นชื่อกันดี พระราชวังวินด์เซอร์ เป็นหนึ่งในที่ประทับของ Queen Elizabeth ที่สอง ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และถือเป็นพระราชฐานที่ยังมีผู้อยู่อาศัยที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก พระมหากษัตริย์และกษัตรีย์แห่งอังกฤษเกือบทุกพระองค์มีส่วนเกี่ยวข้องในการสร้างและพัฒนา พระราชวังวินด์เซอร์ จากประวัติตามรัชสมัยต่างๆ ในยามสงบจากศึก พระราชวังวินด์เซอร์ ถูกใช้เป็นที่ประทับของกษัตริย์ ในยามสงคราม พระราชวังวินด์เซอร์ จะถูกใช้เป็นป้อมปราการด้วยการสร้างเสริมอย่างแน่นหนา และระบบนี้ยังคงใช้สืบเนื่องมาจนปัจจุบัน
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 2. Big Ben
หอนาฬิกาพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ หรือรู้จักกันดีในชื่อของ บิ๊กเบน หอเก่าแก่นี้ถูกสร้าง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 หลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม แท้จริงแล้ว บิ๊กเบน ไม่ใช่ชื่อหอนาฬิกา แต่เป็นชื่อของ ระฆังหนัก 13 ตัน ซึ่งแขวนอยู่ตรงช่องลมเหนือหน้าปัดนาฬิกา และคำว่า บิ๊กเบน นั้นนำมาจากชื่อของ เซอร์ Benjamin Hall ชายคนแรกที่สั่งซื้อระฆัง Big Ben มีความสูง 96.3 เมตร เป็นหอนาฬิกาที่สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และกลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งอังกฤษ ทั้งยังปรากฏในภาพยนตร์หลายเรื่อง
สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ 1. Stonehenge
 สถานที่ท่องเที่ยวประเทศอังกฤษ
สุดยอด สถานที่ท่องเที่ยว ประเทศอังกฤษ ต้องยกให้ สโตนเฮนจ์ กลุ่มแท่งหินขนาดใหญ่ บนที่ราบ Salisbury บริเวณตอนใต้ของเกาะอังกฤษ ประกอบด้วยแท่งหินขนาดยักษ์ 112 ก้อน ที่มาของ สโตนเฮนจ์ยังไม่มีบทสรุปที่แท้จริง มีเพียงข้อสันนิษฐานมากมาย นักโบราณคดีเชื่อว่า กองหินนี้ถูกสร้างขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง เมื่อประมาณ 3000 – 2000 ปี ก่อนคริสตกาล โดยการคำนวณอายุจากคาร์บอนกัมมันตรังสี นักวิทยาศาสตร์และนักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าแท่งหินยักษ์ทั้งหมดถูกชักลากมาจากที่อื่น เนื่องจากที่ราบบริเวณนั้นไม่มีหิน ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจาก “ทุ่งมาร์ลโบโร” ที่อยู่ห่างออกไป 40 กิโลเมตร แต่ก็มีความเชื่อไปในทางเดียวกันว่า สโตนเฮนจ์ น่าจะถูกสร้างขึ้นเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนในยุคโบราณ ด้วยความอัศจรรย์และความลึกลับที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัด สโตนเฮนจ์ จึงถูกยกให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
………………………………………………
ที่มา : www.touropia.com เรียบเรียง : travel.mthai.com

สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก


สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก

10. Ghasa, Nepal
ในฐานะที่เป็นเทือกเขาใจกลางหิมาลัย เนปาลนั้นถือว่ามีทัศนียภาพที่งดงาม แต่บางครั้งการจะชื่นชมบรรยากาศให้เข้าถึงก็ต้องใช้ “การข้าม” จึงจะได้อรรถรสถึงอารยะ แท้ที่จริงแล้ว สะพานสุดเสียว Ghasaที่เนปาล แห่งนี้ ใช้เป็นเส้นทางลากจูงสัตว์เดินผ่านทุกวัน เพื่อลดการสัญจรอันติดขัดของหมู่สัตว์ในแถบ Ghasa สี่ขายังไม่หวั่น แล้วสองขาอย่างเราล่ะไหวมั้ย!?
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 9. Living Root Bridge, India
 
สะพานสุดเสียว Living Root นั้นสร้างจากรากของต้นไม้จริงๆ ตามชื่อเรียก จากความแก่และหน้าตาที่เห็น จะไว้ใจได้มั้ยนะว่าจะไม่ขาดโพละ! แต่การก่อตัวของสะพานรากไม้นี้ ใช้เวลาถึง 20 ปี ในการผสานเกี่ยวพันกันของรากต้นบันยันทรีและขยายกิ่งก้าน เกาะกันหนาแน่นพอที่จะรองรับน้ำหนักของมนุษย์ได้ จนบัดนี้ มีอายุราว 100 ปี มีความสูงอยู่ที่ 53 ฟุต
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 8. Rope Bridge, Peru
สะพานเชือกสุดเสียวแห่งเปรู ปูความไม่แน่นอนของชีวิตไว้รอเราอยู่ตรงหน้า เพราะสะพานลักษณะนี้ไม่มีที่ยึดเหนี่ยว เพราะทำจากเชือกทั้งหมด มีแต่ความโอนเอน ไม่มั่นคง ถ้าเชือกขาดกระทันหัน เบื้องล่างคือหิน ขืนหล่นลงไปแทบไม่อยากคิด
Keshwa Chaca สะพานเชือกในบริเวณใกล้เคียง สร้างขึ้นในแบบเดียวกับสะพานเชือกข้างต้น ด้วยวิธีการดั้งเดิมในยุคอินคา สะพานเชือกเหล่านี้จะถูกสร้างใหม่ปีละครั้ง แสดงว่าเชือกอาจมีเปื่อยตามช่วงเวลา บางทีการข้ามผ่านเส้นทางนี้ ก็คล้ายกับการเอาชีวิตแขวนไว้บนเส้นด้าย?
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 7. Capilano Suspension Bridge, Canada
Capilano ประเทศแคนาดา อีกหนึ่ง สะพานสุดเสียว กลางสวนขนาด 27 เอเคอร์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1889 สูง 230 ฟุต ระยะทางยาว 450 ฟุต เหนือแม่น้ำ Capilano มีผู้สัญจรไปมาผ่านเส้นนี้ทุกวัน และเหตุการณ์สลดที่ต้องจดจำ เมื่อสะพานถูกปิดชั่วคราว เนื่องจากถูกต้นดักลาสเฟอร์ขนาดยักษ์ น้ำหนัก 46 ตัน โค่นทับ ในช่วงเกิดพายุหิมะกระหน่ำ ทำให้มีวัยรุ่นคนหนึ่งตกลงมาจากจุดชมวิวจนถึงแก่ความตาย
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 6. Kotmale Oya, Sri Lanka
ซากสะพานพังบวกความไม่แข็งแรง ของ สะพานสุดเสียว ประเทศศรีลังกา สร้างความหนักใจให้กับผู้ที่ต้องเดินทางข้ามผ่านแม่น้ำกระแสเชี่ยว Kotmale Oya ซึ่งอยู่เบื้องล่าง ทริคง่ายๆ (แต่ทำใจยาก) คือ การตั้งสติมองเท้าตัวเองไว้ดีที่สุด ไม่เช่นนั้นเราอาจได้ลงไปทำความรู้จักกับนานาหินแหลมคมที่อยู่ก้นบึ้งแม่น้ำ
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 5. Trift Lake, Switzerland
สะพานสุดเสียว นี้ สำหรับคนหัวสูง เขย่าขวัญด้วยระยะทาง 550 ฟุต สูง 300 ฟุต เหนือทะเลสาบ Trift ทางตอนกลางของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ถือเป็นสะพานเดินเท้าที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ เมื่อถึงจุดกลางสะพาน จะเหมือนกับกำลังลอยอยู่กลางเวหา ด้วยความสูงวัดได้ 100 ฟุต จากพื้นดิน
สะพานมีความทนทาน ปลอดภัย เว้นเสียแต่ว่า โชคจะไม่เข้าข้างบางคนเท่านั้น!
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 4. Sarawak, Borneo
สะพานเชือกดูเหมือนจะชวนเสียวที่สุดแล้ว แต่จะว่าไป สะพานไม้ไผ่ ที่ Sarawak เกาะ Borneo ประเทศมาเลเซีย ก็ทำเอาลื่น เดินพลาดได้ง่ายไม่แพ้กัน เสียงออดแอดขณะข้าม คือหนึ่งในตัวสร้างความหวั่นวิตก บวกความแข็งแรงที่ไม่มาก จึงรองรับได้เพียงครั้งละ 2 คน เทคนิคทำใจ จงมองเท้าและก้าวไปข้างหน้า อย่ามัวแต่พิจารณาว่า มันคือไม้ไผ่ที่ยึดไว้ด้วยเชือกเท่านั้น!
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 3. Lantang Valley, Nepal
สะพานสุดเสียว แห่งนี้ อยู่ที่ หุบเขา Lantang ประเทศเนปาล ดูเหมือนจะแข็งแรง แต่เมื่อยามมีลมกรรโชก ทำเอาสะพานโยกเยก เราก็อาจเด้งหล่นลงมากระแทกหินเบื้องล่างได้ง่ายเช่นกัน
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 2. Braldu River Crossing, Pakistan
สำหรับคนที่ไม่ชอบ สะพานเชือก สะพานไม้ไผ่ เชื่อว่า สะพานข้ามแม่น้ำ Braldu อยู่ทางตอนเหนือของปากีสถาน ซึ่งถักทอจากเถาองุ่น ก็ย่อมไม่เป็นที่โปรดปรานเป็นแน่ การเดินข้ามสะพานนี้ต้องมีการทรงตัวที่ดี ไม่งั้นจับพลัดจับผลูร่วงแบบไม่ตั้งตัว ถือเป็นประสบการณ์หวาดเสียวสุดๆ ปัจจุบัน สะพานสุดเสียว แห่งนี้ ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเถาองุ่นเป็นสายเคเบิล เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การสร้างโรงเรียนแห่งใหม่
สะพานหวาดเสียวที่สุดในโลก 1. Hunza River, Pakistan
สะพานที่หวาดเสียวที่สุดในโลก
สะพานสุดเสียว แห่งนี้ ใช้ข้ามแม่น้ำ Hunza และคาดกันว่าน่าจะเป็น สะพานที่น่าหวาดเสียวที่สุดในโลก ต่อให้ระวังแค่ไหน แต่ช่องโหว่แสนจะใหญ่ แถมโครงสร้างยังดูไม่มีความแข็งแรงเอาซะเลย ดูแล้วโอกาสพลาดตกมีสูงแน่ๆ
สะพานน่ากลัว
สะพานแห่งนี้ อยู่ใกล้กับหมู่บ้าน Hussaini ทางตอนเหนือของปากีสถาน ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ทางสัญจรนี้ เล่าว่า มันช่างเป็นสถานการณ์ที่โหดร้ายมาก ยามเจอกระแสลมแรง เพราะลำพังข้ามก็ลำบากแล้ว ดันเจอผมมาบังลูกกะตาอิ๊กกกก!!
 สะพานที่เห็นข้างๆ นี้ เป็นสะพานเดิม ที่ถูกทำลายด้วยอุทกภัยรุนแรง ใน ปี ค.ศ. 2010 ซึ่งถือว่าเป็นภัยพิบัติครั้งเลวร้ายที่สุดของปากีสถาน ปัจจุบันก็ยังคงเหลือซากไว้ข้างๆ สะพานใหม่ ที่ดูแล้วสภาพประดักประเดิดไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก อยากรู้จังจะมีใครเคยข้ามผิดสะพานบ้างมั้ย!?
ที่มา : brainz.org เรียบเรียง : travel.mthai.com

10 อันดับ คุกที่แย่ที่สุดในโลก


โหดแท้! คุกที่แย่ที่สุดในโลก

คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 10. Nairobi Prison, Kenya
คุก Nairobi แห่ง เคนย่า สถานที่ซึ่งนักโทษนิยมเปลือยกายล่อนจ้อนและติดโรคทางเพศสัมพันธ์มากมาย โดยปกติแล้ว เคนย่า เป็นประเทศที่ขาดแคลนความช่วยเหลือทางการแพทย์ เพราะฉะนั้นในคุกยิ่งไม่ต้องพูดถึง ยิ่งป่วยหนักแค่ไหน ก็เท่ากับว่านอนรอความตายเท่านั้น!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 9. Mendoza Prison, Argentina
10 คุกที่แย่ที่สุดในโลก
คุก Mendoza แห่ง อาร์เจนตินา สิ่งที่แย่ของที่นี่ไม่ใช่ความโหดร้ายของผู้คุมขัง แต่เป็นความโหดร้ายจากความคับแคบของสถานที่คุมขังซะมากกว่า เพราะคุกแห่งนี้รองรับนักโทษได้เพียง 600 คนเท่านั้น แต่พอเอาเข้าจริงคนทำผิดล้นทะลัก มาฝากขังกันกว่าเท่าตัว ไม่ตายเพราะกระทบกระทั่ง ก็หายใจติดขัด..ถึงขั้นสิ้นลม!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 8. San Quentin State Prison, California
เรือนจำ San Quentin State แห่ง รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีชื่อเสียงด้านความรุนแรง เป็นคุกที่รวมนักโทษราว 1,500 คนที่มีความผิดร้ายแรง ต้องโทษสูงสุด ขั้นประหารชีวิต ทั้งยังมีปัญหาการแบ่งแยกสีผิวและเชื้อชาติ เหตุการณ์รุนแรงอันเป็นที่จดจำ คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2006 นักโทษต่างเชื้อชาติยกพวกตีกัน จนเกิดการบาดเจ็บสาหัสนับร้อย มีผู้เสียชีวิต 2 คน ผู้ควบคุมเองก็ไม่สามารถห้ามทัพได้!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 7. Diyarbakir Prison, Turkey
คุก Diyarbakir ประเทศตุรกี สำหรับคนทำผิดแบบเบาๆ นั้น ที่นี่คือคุกสวรรค์ แต่สำหรับพวกมีความผิดร้ายแรงมหันต์ ที่นี่ก็เปรียบเสมือนนรก! เพราะการถูกคุมขังในเรือนจำแห่งนี้ตลอดชีวิตนั้นก็เท่ากับว่าเป็นของเล่นรองรับมือเท้าของเหล่าผู้คุม ทรมานกันแบบไม่ปราณี และส่วนใหญ่เป็นนักโทษทางการเมือง หลักฐานในปี 1996 พบว่า มีนักโทษตาย 10 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 33 คน ล้วนเป็นผลจากฝีมือผู้คุมใจยักษ์ล้วนๆ
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 6. Rikers, New York
เรือนจำ Rikers แห่ง นิวยอร์ค เคยครองแชมป์คุกยอดแย่อันดับหนึ่ง ปัจจุบันมีการปรับปรุงและปราบปราม จึงทำให้การแทงกันของพวกนักโทษเหลือเพียง70 ครั้งต่อปี ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมาก แต่ความรุนแรงก็กลายเป็นตำนานหลอน ลุกลามไปถึงเรื่องผีๆ ที่ผู้คุมหลายคนพากันสยองไม่หาย!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 5. La Sabeneta Prison, Venezuela
คุก La Sabeneta แห่ง เวเนซูเอล่า ความแย่อยู่ที่ความแออัด อัตคัด ผู้คุม 1 คน ต้องดูแลนักโทษถึง 150 ชีวิต แถมยังมีการคอรัปชั่นในหมู่ผู้คุม ปล่อยปะละเลยในหน้าที่ นักโทษส่วนใหญ่ก่อเหตุคดีฆาตกรรม ภายใน ปี 1995 เคยมีนักโทษคดีนี้กว่า 800 คน และในช่วงที่ถูกคุมขัง เขาเหล่านี้ก็สำแดงเดช ดวลมีด ดวลไม้ ฟาดฟันกันจนตายถึง 108 คน ภายในวันเดียว!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 4. La Sante Prison, France
คุก La Sante แห่ง ฝรั่งเศส ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานกักกันที่มีนักโทษฆ่าตัวตายเป็นจำนวนมาก โดยการกินยาเบื่อหนู 124 ศพ ใน ปี 1999 ส่วนใหญ่มักฆ่าตัวตายเพราะต้องการหนีความทรมานจากการถูกขังในรูเล็กๆ ที่มีแสงรอดเข้ามาเพียงวันละ 4 ชั่วโมงเท่านั้น การลงโทษของที่นี่คือการตัดน้ำเป็นระยะ ยิ่งสร้างความอึดอัดให้นักโทษ และส่วนใหญ่มีความผิดทางอาญาเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ก็ต้องอยู่ในห้องมืดดับแบบไม่มีกำหนด!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 3. Carandiru Penitentiary, Brazil
Carandiru คุกที่แย่ที่สุดในโลก
ทัณฑสถาน Carandiru แห่ง บราซิล เรียกว่าเป็นสถานที่ทรมานมนุษย์อย่างถูกฎหมาย นักโทษ 7,500 คน ต้องอยู่รวมกันโดยไม่มีการแบ่งแยก และใน 500 คน นั้นเป็นผู้ติดเชื้อเอดส์ ซึ่งป่วยด้วยโรคร้ายจากการใช้เข็มและรักร่วมเพศในคุกแห่งนี้ ทุกครั้งที่ใครบางคนจะถูกผ่าตัด การโดนฉีดยาชาหรือยาสลบด้วยเข็มมันช่างน่ากลัวซะยิ่งกว่า ทางออกเดียวคือ หวีดร้อง ทุรนทุราย หนีเข็ม..จนสลบไปเอง!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 2. Tadmor Military Prison, Syria
คุกทหาร Tadmor แห่ง ซีเรีย กลางทะเลทรายทางตะวันออก เป็นสถานกักกันที่มีการทรมานอย่างโหดเหี้ยม ด้วยระบบลงโทษสมัยยุคกลาง ครั้งหนึ่งคุกแห่งนี้เคยเกือบถูกยึดครองจากเหล่าผู้ถูกจองจำ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ปี 1980 กิจกรรมยามว่างของนักโทษ คือการฟาดฟันกันด้วยท่อ พอกลายเป็นศพก็ลากมาสับ สับ สับ โอ้ววว..ต้องหาอะไรให้พวกพี่เค้าทำแล้วล่ะ จะได้ไม่ว่าง!
คุกที่แย่ที่สุดในโลก อันดับ 1. ADX, Colorado
ADx คุกที่แย่ที่สุดในโลก
คุก ADX แห่ง โคโลราโด สถานกักกันระดับสูงสุดของประเทศสหรัฐ ก่อตั้งใน ปี 1994 แหล่งรวมสุดยอดคนพันธุ์ชั่ว พวกคนร้ายจะได้ออกมาสูดอากาศนอกรูเพียง 9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น! เฉลี่ยประมาณวันละชั่วโมงเศษ และต้องกลับเข้าไปเสพความมืดในช่องน้อยที่แสงเข้าไม่ถึงอีกเกือบเต็มวัน อึดอัด ขาดใจ ยิ่งกว่าสัตว์ถูกขัง!
ข้อมูล : toptenthailand.com เรียบเรียง : travel.mthai.com

10 อันดับ สถานที่ไม่ควรไปเยือน


10 อันดับ สถานที่ไม่ควรไปเยือน

สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 10. Centralia, Pennsylvania
10 สถานที่ไม่ควรไปเยือน
เมืองเซ็นทราเลีย แห่ง เพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา เมืองที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุตสาหกรรมเหมืองถ่านหินจนสร้างความรุ่งเรืองมากในครั้งอดีต แต่กลับถูกทำลายด้วยไฟไหม้ครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1962 โดยต้นเพลิงนั้นเกิดจากการจุดไฟเผาขยะทิ้งไว้ในบ่อเหมือง จึงเกิดการไหม้ลุกลามขยายวงกว้างกินพื้นที่ใต้ดินของอาคารบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว แม้จะสูญเสีญค่าใช้จ่ายอย่างมหาศาลเพื่อดับไฟ แต่ก็ไม่เป็นผล ทุกวันนี้ไฟยังครุกรุ่นนานนับ 40 ปี ทำให้ประชากรรอบด้านได้รับสารพิษจากคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งปนเปื้อนอยู่ในอากาศ รวมถึงการเกิดดินยุบเป็นหลุมลึก ทางการจึงประกาศห้ามใช้ตึกทุกหลังในเมืองเซ็นทราเลีย และยกเลิกรหัสไปรษณีย์ ผู้คนเริ่มอพยพย้ายถิ่นฐาน จนปัจุบันหลงเหลือประชากรแทบนับจำนวนคนได้
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 9. Dallol
ดาลลอล สถานที่ไม่ควรไปเยือน
ภูเขาไฟดาลลอล สูง 50 เมตร จากระดับน้ำทะเล อยู่ทางตอนเหนือของเอธิโอเปีย อุณหภูมิในบริเวณนี้มีความร้อนสูงจนไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย เป็นหนึ่งในสถานที่ที่อยู่ห่างไกลที่สุดในโลก ทั้งยังอยู่ใกล้ชายแดนที่มีความขัดแย้ง นักท่องเที่ยวที่อยากจะลองไปเหยียบ ดาลลอล ต้องอาศัยยานพาหนะติดอาวุธ เพราะอาจถูกทำร้ายจากกองโจรได้!
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 8. Hanford Site
 แฮนฟอร์ด อดีตชุมชนเกษตรกรรมขนาดเล็กทางตอนใต้ของวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งของโครงการแมนฮัตตัน ในการผลิตพลูโตเนียมเพื่อใช้ในโรงงานนิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเนื่องจากปริมาณพลูโตเนียมมากเกินไป จึงทำให้เกิดกัมตภาพรังสีจำนวนมาก จนไม่สามารถกำจัดได้หมดแฮนฟอร์ด จึงกลายเป็นพื้นที่เจือปนกากกัมตภาพรังสี ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งได้รับสารพิษและสารก่อมะเร็ง!
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 7. Dzerzhinsk
เมืองเดอร์ซินสค์ เแห่ง รัสเซีย ตั้งอยู่บนแม่น้ำ Oka ทางตะวันออกของกรุงมอสโก ในปี 1941 ก่อนสงครามเย็น เมืองเดอร์ซินสค์ ถือเป็นแหล่งผลิตอาวุธเคมีชั้นนำของประเทศ รวมทั้งอินทรีย์เคมีอื่นๆ แม้ภายหลังจะมีการหยุดผลิตสารพิษนี้ลง โดยการฝังดินหรือทิ้งลงแม่น้ำ แต่ก็ไม่สามารถกำจัดสารพิษได้หมดไป ส่งผลให้มีสารตกค้างจนถึงปัจจุบัน ประชากรมีอันล้มป่วยล้มตาย เมืองนี้จึงเป็นศูนย์กลางผลิตสารเคมีที่มีระดับมลภาวะร้ายแรงที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 6. Dharavi
Dharavi สลัมที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ตั้งอยู่ที่ เมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย เป็นแหล่งเครื่องปั้นดินเผาและอุตสาหกรรมสิ่งทอ แต่รกเลอะเทอะด้วยสาเหตุของความแออัดจากปริมาณผู้คนที่แห่แหนเข้ามาหางานทำในเมืองหลวง และเพราะค่าครองชีพในมุมไบสูงมาก สลัมจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะค่าเช่าเพียง 185 รูปี หรือ 4 เหรียญสหรัฐ ต่อเดือนเท่านั้น ส่งผลให้บริเวณนี้มีประชากรเกินกว่า 1 ล้านคน จึงไม่น่าแปลกใจที่เมืองเต็มไปด้วยปัสสาวะและสิ่งปฏิกูล โรคระบาดทวีคูณแหงมๆ
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 5. Linfen
เมืองหลินเฟิน แห่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีประชากรกว่า 4.2 ล้านคน ขึ้นชื่อว่าเป็น เมืองที่สกปรกที่สุดในโลก มลพิษปกคลุมอยู่ทุกแห่งไม่ต่างจากหมอกควัน สาเหตุมาจากการเผาไหม้ของถ่านหินโรงงานไฟฟ้า และโรงงานที่ใช้เทคโนโลยีไม่ได้มาตรฐานตามกฎหมาย แม้จะมีการปราบปราม แต่ปัจจุบัน เมืองหลินเฟิน ก็ยังคงเต็มไปด้วยสารตะกั่วและโลหะหนัก ชาวจีนในถิ่นนี้ต้องสวมหน้ากากลดการสูดดมตลอดวัน มิหนำซ้ำบางวันสารพิษปกคลุมจัดจนมองไม่เห็นมือตัวเอง!
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 4. Room 39
Room 39 สถานที่ไม่ควรไปเยือน
Room 39 หรือ ห้องหมายเลข 39 ชื่อของสำนักงานหรือหน่วยงานลับ ก่อตั้งขึ้นในปี 1970 ซึ่งที่ทำการน่าจะอยู่ที่ เปียงยาง เกาหลีเหนือ อย่างที่ทราบกันว่า เกาหลีเหนือ เป็นประเทศสันโดษ แร้นแค้น ประชากรอดอยาก ไม่เกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ ทำให้ท่านผู้นำไม่สามารถหาเงินหรือใช้เงินได้สะดวก หน่วยงานลับ ห้องหมายเลข 39 จึงสร้างขึ้นมาเพื่อการรักษาเงินและเพิ่มเงินในกระเป๋าของท่านผู้นำคิม จอง อิล ซึ่งจะทำหน้าที่ฟอกเงิน ตั้งกองทุนปลอม ปลอมแปลงเงิน ทำกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย และสร้างอาวุธนิวเคลียร์ ฟังแล้วเพลียขนาดนี้ จึงขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน สถานที่อันตรายที่สุดในโลก
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 3. Mogadishu
Mogadishu เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน โซมาเลีย ประเทศในแถบแอฟริกาตะวันออก อยู่ติดกับชายฝั่งทะเลในมหาสมุทรอินเดีย เป็นเมืองท่าสำคัญมานานหลายศตวรรษ แต่ในปี 1990 เมืองแห่งนี้ได้กลายเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน เนื่องจากกองกำลังกบฏยึดครองเมือง ส่งผลให้บ้านเมืองไร้กฎหมาย ประชากรอดอยาก ถนนหลายสายชำรุด บ้านเมืองถูกทำลาย มากมายด้วยกองโจร และเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตาย นักท่องเที่ยวที่คิดจะมาเยือน โซมาเลีย ไม่ควรเฉียดเมืองนี้ หรือเปลี่ยนที่หมายไปประเทศอื่นจะปลอดภัยกว่า!
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 2. City Soleil
City Soleil แห่ง เฮติ มีประชากรกว่า 200,000 – 300,000 คนอาศัยในพื้นที่แห่งนี้ ถือเป็น สถานที่แออัดที่สุดและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ไม่มีระบบระบายน้ำ ไม่มีร้านค้า ไฟฟ้า หรือ ตำรวจ ประชาชนอดอยาก ว่างงาน ไม่รู้หนังสือ แย่ไปกว่านั้นยังมีแก๊งติดอาวุธครองเมือง ซึ่งเจ้าหน้าที่สหประชาชาติก็ไม่สามารถควบคุมพื้นที่และแก้ปัญหาได้ ทั้งยังเคยเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ของเฮติ ส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตถึง 230,000 คน และกว่าหนึ่งล้านคนไม่มีที่อยู่อาศัย และสลัมแห่งนี้ยิ่งทวีความเลวร้ายยิ่งขึ้นจากอาชญากรรม โรคร้าย ผู้คนส่วนใหญ่มีชีวิตอยู่รอดถึงอายุเพียง 50 ปี เท่านั้น!
สถานที่ไม่ควรไปเยือน อันดับ 1. Orangi Town
เมือง Orangi เป็นที่อยู่อาศัยของผู้อพยพในตะวันตกเฉียงเหนือของ การาจี ประเทศปากีสถาน มีประชากรประมาณ 2.5 ล้านคน เป็นมุสลิมกับชนกลุ่มน้อยหลากหลายวัฒนธรรม จึงเป็นเหตุให้ประสบปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติ แม้จะมีการรณรงค์ให้ความรู้ แต่ความรุนแรงระหว่างชาวปากีสและอัฟกัน ทำให้เกิดการอพยพ ธุรกิจต่างๆ ต้องปิดตัวลง ถนนถูกทิ้งร้าง ผู้คนอาศัยอยู่ท่ามกลางความรุนแรง การข่มขืน เหตุระเบิดฆ่าตัวตาย การลักพาตัว และการลอบสังหาร จนกลายเป็นเหตุการณ์ปกติของเมืองนี้ Orangi จึงได้ชื่อว่าเป็น สถานที่อันตรายที่สุดในโลก
ข้อมูล : toptenthailand เรียบเรียง : travel.mthai.com